บริษัท เลิศสยามสตีล จำกัด กำลังหาบุคลากรที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม มาร่วมเติบโตไปกับเรา ตามตำแหน่งที่เปิดรับสมัครดังนี้

 
ตำแหน่ง อัตรา วันเปิดรับสมัคร  
พนักงานขายประจำในกรุงเทพ 3  
 

พนักงานขายประจำในกรุงเทพ

 
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เพศ ชาย/ หญิง อายุ 20 ปีขึ้นไป
- วุฒิปริญญาตรี ไม่จำกัดสาขา
- ใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน Microsoft Office ได้
- สามารถเริ่มงานได้ทันที
- มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- มีความขยันและอดทนในการทำงาน
 
สถานที่ปฎิบัติงาน บ.เลิศสยามสตีล จำกัด
จังหวัด กรุงเทพมหานคร
เวลาในการปฎิบัติงาน วันจันทร์-เสาร์ 8.00 – 17.00 น.
วิธีการรับสมัครงาน สมัครงาน Online ได้ที่ www.lertsiam.co.th หรือ หรือมาสมัครได้ด้วยตนเองที่บริษัท
 
 
พนักงานขายประจำ-ต่างจังหวัด 3  
 

พนักงานขายประจำ-ต่างจังหวัด

 
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เพศ ชาย/ หญิง อายุ 20 ปีขึ้นไป
- วุฒิปริญญาตรี ไม่จำกัดสาขา
- ใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน Microsoft Office ได้
- สามารถเริ่มงานได้ทันที
- มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- มีความขยันและอดทนในการทำงาน
 
สถานที่ปฎิบัติงาน ต่างจังหวัด แบ่งตามเขต
เวลาในการปฎิบัติงาน วันจันทร์-เสาร์ 8.00 – 17.00 น.
วิธีการรับสมัครงาน สมัครงาน Online ได้ที่ www.lertsiam.co.th หรือ หรือมาสมัครได้ด้วยตนเองที่บริษัท
 
 
พนักงานบัญชี-การเงิน 1  
 

พนักงานบัญชี-การเงิน

 
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เพศ ชาย/ หญิง อายุ 20 ปีขึ้นไป
- วุฒิปริญญาตรี สาขาบัญชี-การเงิน
- ใช้คอมพิวเตอร์พื้นฐาน Microsoft Office ได้
- สามารถเริ่มงานได้ทันที
- มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- มีความขยันและอดทนในการทำงาน
 
สถานที่ปฎิบัติงาน บ.เลิศสยามสตีล จำกัด
จังหวัด กรุงเทพมหานคร
เวลาในการปฎิบัติงาน วันจันทร์-เสาร์ 8.00 – 17.00 น.
วิธีการรับสมัครงาน สมัครงาน Online ได้ที่ www.lertsiam.co.th หรือ หรือมาสมัครได้ด้วยตนเองที่บริษัท
 
 
พนักงาน QC 2  
 

พนักงาน QC

 
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เพศ ชาย อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา
- สุขภาพแข็งแรง ซื่อสัตย์และตรงต่อเวลา
- สามารถเริ่มงานได้ทันที
- มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- มีความขยันและอดทนในการทำงาน
 
สถานที่ปฎิบัติงาน บ.เลิศสยามสตีล จำกัด
เวลาในการปฎิบัติงาน วันจันทร์-เสาร์ 8.00 – 17.00 น.
วิธีการรับสมัครงาน สมัครงาน Online ได้ที่ www.lertsiam.co.th หรือ หรือมาสมัครได้ด้วยตนเองที่บริษัท
 
 
พนักงานขับรถส่งสินค้า 1  
 

พนักงานขับรถส่งสินค้า

 
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เพศ ชาย อายุ 20 ปีขึ้นไป
- ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา
- สามารถขับรถยนต์ รถกระบะได้ มีใบขับขี่
- สามารถเริ่มงานได้ทันที
- มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- มีความขยันและอดทนในการทำงาน
 
สถานที่ปฎิบัติงาน บ.เลิศสยามสตีล จำกัด
เวลาในการปฎิบัติงาน วันจันทร์-เสาร์ 8.00 – 17.00 น.
วิธีการรับสมัครงาน สมัครงาน Online ได้ที่ www.lertsiam.co.th หรือ หรือมาสมัครได้ด้วยตนเองที่บริษัท
 
 
พนักงานติดรถส่งสินค้า 2  
 

พนักงานติดรถส่งสินค้า

 
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เพศ ชาย อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา
- สุขภาพแข็งแรง ซื่อสัตย์และตรงต่อเวลา
- สามารถเริ่มงานได้ทันที
- มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- มีความขยันและอดทนในการทำงาน
 
สถานที่ปฎิบัติงาน บ.เลิศสยามสตีล จำกัด
เวลาในการปฎิบัติงาน วันจันทร์-เสาร์ 8.00 – 17.00 น.
วิธีการรับสมัครงาน สมัครงาน Online ได้ที่ www.lertsiam.co.th หรือ หรือมาสมัครได้ด้วยตนเองที่บริษัท
 
 
พนักงานขับรถส่งเอกสาร 3  
 

พนักงานขับรถส่งเอกสาร

 
คุณสมบัติผู้สมัคร
- เพศ ชาย อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา
- รอบรู้เส้นทางในกรุงเทพและปริมณฑล
- ซื่อสัตย์และตรงต่อเวลา
- สามารถเริ่มงานได้ทันที
- มีบุคลิกภาพและมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
- มีความขยันและอดทนในการทำงาน
 
สถานที่ปฎิบัติงาน บ.เลิศสยามสตีล จำกัด
เวลาในการปฎิบัติงาน วันจันทร์-เสาร์ 8.00 – 17.00 น.
วิธีการรับสมัครงาน สมัครงาน Online ได้ที่ www.lertsiam.co.th หรือ หรือมาสมัครได้ด้วยตนเองที่บริษัท
 
 
 
 
   

บริษัท เลิศสยามสตีล

กิจการของบริษัท คือ เป็นผู้นำเข้าสแตนเลส SUS 304, 316L และ เหล็กจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพ และ มาตรฐาน ที่ได้สร้างความเชื่อถือให้แก่ผู้นำไปใช้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการจัดจำหน่ายให้แก่ร้านค้าในประเทศ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม โรงกระดาษ โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โรงน้ำแข็ง ห้องเย็น โรงปลาป่น โรงน้ำตาล โรงงานผลิตหม้อน้ำ เครื่องครัว เรือประมง
คานเรือต่างๆ

เลิศสยามเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการตอบรับและความเชื่อถืออย่างดีตลอดมา ทั้งเรื่องราคามาตรฐาน คุณภาพของสินค้า น้ำหนักที่เที่ยงตรง การบริการด้วยน้ำใจ การจัดส่งที่รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพและต่างจังหวัด พนักงานทุกคนต้องผ่านการฝึกฝนเพื่อให้มั่นใจได้ว่า เราจะได้นำสิ่งที่ดีที่สุดให้แด่คุณ และนี่คือแรงผลักดันที่ทำให้เรามุ่งมั่นและยืนหยัดอยู่ในวงการสแตนเลสได้อย่างภาคภูมิใจ

 

 
ความสุขที่ได้ร่วมงานกับเรา
 
1. เปิดรับความสุข   2. รู้จักการให้อภัย
ความสุขอยู่ไม่ไกลเพียงคุณเปิดใจรับมันเข้ามา มองโลกในแง่ดี ใฝ่เรียน ใฝ่รู้ ช่างสำรวจ ค้นหาประสบการณ์ และความคิดใหม่ ๆ จากผู้คนที่คุณพบปะ ทำความรู้จักและทักทายเพื่อนใหม่ด้วยความกระตือรือร้น สะท้อนความเป็นคุณที่สนุกสนานและรื่นเริง มีความสุขกับชีวิตและสิ่งที่ทำ เพราะทุกวันคือการเรียนรู้ เดินหน้าค้นหาและทำตามความฝัน อย่างไม่ย่อท้อ แต่ก็ไม่จริงจังกับชีวิตมากเกินไปจนหมดสนุก ขาดความสุขในการทำงาน   เป็นเรื่องง่ายที่จะจดจำเรื่องไม่ดีและสะสมความขุ่นเคือง คับข้องใจเอาไว้ เพราะความผิดพลาดอาจสอนคุณให้ระมัดระวังตัวและสร้างกำแพงขึ้นมา ซึ่งมันจะเป็นปราการกั้นความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนอื่นๆ อย่าพยายามตัดสิน หรือตำหนิผู้อื่น แต่จงยอมรับเขา และเขาก็จะยอมรับเราเช่นกัน เลือกจดจำแต่เรื่องดีๆ ส่วนเรื่องไม่ดีให้ทิ้งไปเสีย ในทางตรงกันข้ามการแสดงความรักโดยปราศจากเงื่อนไข จะช่วยให้คุณลดช่องว่างระหว่างคุณกับคนอื่นๆได้
     
3. มีแต่ความจริงใจ   4. เอาใจใส่ผู้อื่น
การที่เรามีความจริงใจให้ผู้อื่น เป็นการสร้างความสุขวิธีหนึ่ง เมื่อเรามีความจริงใจ ไม่ปิดบัง ซ่อนเร้น เสแสร้ง หรืออีโก้ กลัวเสียฟอร์ม และไม่ลังเล รีรอที่จะผูกมิตรและเป็นเพื่อนที่ดีของทุกคน คุณก็จะได้รับความจริงใจตอบแทน เพื่อนของคุณต้องการคบคุณที่เป็นตัวคุณจริง ๆ ไม่ใช่คนที่ใส่หน้ากากเข้าหากัน ประเภทต่อหน้าอย่างลับหลังอีกอย่างเช่นนี้ย่อมไม่มีใครต้องการจะคบด้วย เมื่อคุณไม่จริงใจ สักวันหนึ่งความจริงก็จะถูกเปิดเผย ส่งผลให้พวกเขาสูญเสียความเชื่อถือ ความไว้วางใจ ความชื่นชม และความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กับคุณตลอดมา   ลองถามตัวเองว่า คุณได้ทำอะไรให้เพื่อนร่วมงานของคุณบ้าง คุณมีส่วนร่วมในความทุกข์ ความสุขของพวกเขามากแค่ไหน คุณเคยยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้กับพวกเขาบ้างหรือไม่ คุณเคยทำอะไรให้เป็นที่น่าจดจำบ้างไหม คุณเป็นคนที่พวกเขาอยากเจอทุกวันหรือเปล่า คนที่คอยเอาใจใส่ผู้อื่น ให้ความสำคัญกับผู้อื่น จับอารมณ์ความรู้สึกของพวกเขาได้ มีน้ำใจ แสดงความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ และให้กำลังใจพวกเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็จะมีแต่คนรัก ทำอะไรก็จะมีคนคอยช่วยเหลือ สนับสนุนให้ประสบความสำเร็จได้ ไม่ต้องกลัวเหงา หรือโดดเดี่ยว เพราะเงินไม่ได้สามารถซื้อความสุขได้ทุกครั้งไป แต่หากคุณมีความรักในสิ่งที่คุณทำ รู้จักการให้อภัย มีความจริงใจ และเอาใจใส่ผู้อื่นอยู่เสมอ
 
นอกเหนือจาก "ความรู้" แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พนักงานทุกคนจำเป็นต้องมี คือ "ทักษะ"

เมื่อก่อนการจะรับใครสักคนเข้ามาเป็นพนักงานในบริษัทมักจะมุ่งเน้นตรวจสอบและให้น้ำหนักกับความรู้เป็นสำคัญ แต่ในปัจจุบันการมีความรู้แต่เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้การทำงานร่วมกันภายในองค์กรประสบความสำเร็จได้ เพราะการรับพนักงานโดยมองความรู้พื้นฐานที่จบการศึกษามาเพียงอย่างเดียวเป็นมุมมองที่แคบเกินไป เนื่องจากการทำงานจริงๆภายในบริษัทจะต้องใช้อะไรที่มากกว่านั้นพนักงานและองค์กรจึงจะสามารถอยู่รอดร่วมกันได้ ซึ่งชิ้นส่วนสำคัญที่ขาดหายไปในการพิจารณาคัดเลือกพนักงานก็คือเรื่องของ “ทักษะ” นั่นเอง โอกาสนี้ INCquity จึงขอแนะนำทักษะการทำงานที่จำเป็นซึ่งพนักงานทุกคนจำเป็นจะต้องมี อันประกอบไปด้วย

 
ทักษะที่ 1 คอมพิวเตอร์   ทักษะที่ 2 การฟังและพูด
     
  เดี๋ยวนี้แทบจะไม่มีองค์กรไหนทำงานด้วยการใช้มือจับปากกากันอีกต่อไปแล้ว ทักษะในเรื่องคอมพิวเตอร์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากและผู้ประกอบการควรที่จะต้องเอาใจใส่ในเรื่องนี้ให้มากเป็นพิเศษ เพราะพนักงานที่มีความรู้ความสามารถบวกกับทักษะในเรื่องของคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพิมพ์แบบสัมผัส สามารถใช้โปรแกรมได้หลากหลาย รับส่งอีเมล์เป็น ฯลฯ จะสามารถทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยลดภาระการทำงานที่ซ้ำซ้อนภายในบริษัทได้อีกด้วย
 
 
  เพราะมนุษย์แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นๆตรงที่เรามีภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารเป็นของตนเอง ทักษะในการพูดและฟังจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะมันจะมีส่วนช่วยลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการประสานงานที่คลาดเคลื่อนไปได้มากกว่าครึ่ง ซึ่งพนักงานที่มีทักษะการฟังที่ดีก็มักจะมีทักษะการพูดที่ดีตามไปด้วยเพราะทั้งสองสิ่งมีความเชื่อมโยงกันนั่นเอง
ทักษะที่ 3 การเขียน   ทักษะที่ 4 การแก้ปัญหา
     
  การเขียนในที่นี้อาจจะไม่ได้หมายรวมถึงการเขียนเป็นตัวหนังสือเท่านั้น แต่มีความหมายที่กว้างและครอบคลุมถึงการสื่อสารทั้งหมด โดยจะอยู่ในฐานะของผู้ส่งสารและจดบันทึกในเรื่องต่างๆ ทั้งการเขียนแผนธุรกิจ การนำเสนอแผนงานโครงการ การนำเสนองบดุลบัญชี ฯลฯ เป็นต้น ดังนั้นพนักงานของบริษัททุกคนจะต้องมีทักษะในเรื่องของการเขียนด้วย เพราะหากพนักงานคนไหนไร้ซึ่งทักษะตัวนี้แล้วล่ะก็การประสานงานภายในองค์กรก็จะเป็นไปอย่างยุ่งยากมากขึ้น
 
 
  เป็นอีกหนึ่งทักษะที่มีความสำคัญมากเพราะถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงานที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงมือทำมักจะมีปัญหาแฝงมาด้วยอยู่เสมอ ดังนั้นพนักงานที่มีทักษะในการแก้ปัญหาจะสามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่บีบคั้นเช่นนี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินงานภายในบริษัทจะไม่หยุดชะงักเพียงเพราะแค่คนเพียงคนเดียวแก้ปัญหาไม่เป็นอย่างแน่นอน
ทักษะที่ 5 การบริหารเวลา   ทักษะที่ 6 มนุษยสัมพันธ์เป็นเลิศ
     
  โดยปกติการทำธุรกิจก็มีปัญหาในเรื่องของภาวะการแข่งขันในท้องตลาดให้ต้องคิดวิตกกังวลกันมากมายอยู่แล้ว แต่นอกจากนี้ในบางครั้งศัตรูที่น่ากลัวที่สุดกลับเป็นเวลาที่หมุนผ่านบนเข็มนาฬิกามากกว่า พนักงานในบริษัทจึงควรมีทักษะในเรื่องของการบริหารเวลากับการทำงานให้เหมาะสมและสามารถไปด้วยกันได้เป็นอย่างดีด้วย เพื่อให้งานสามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มสมรรถนะและโอกาสในการแข่งขันกับคู่แข่งให้เพิ่มสูงขึ้นด้วยในท้ายที่สุด
 
 
  ระบบการทำงานในบริษัทที่ประสบความสำเร็จจะมีจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือในเรื่องของการทำงานแบบเป็นทีมเวิร์ค ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานในบริษัททุกยุคทุกสมัย ดังนั้นทักษะในเรื่องมนุษย์สัมพันธ์จึงเป็นอีกหนึ่งทักษะที่พนักงานทุกๆคนจำเป็นต้องมี เพราะมันมีกลไกที่สามารถช่วยลดความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานลงได้อย่างมาก อีกทั้งยังช่วยอำนวยการให้การติดต่องานกับแผนกอื่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพไม่มีการข้ามเส้นระหว่างกันด้วย
 
ทักษะที่ 7 อดทน   ทักษะที่ 8 ภาษาต่างประเทศ
     
  อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าปัญหาในการทำงานเป็นวัฏจักรอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ด้วยเหตุผลประการเช่นนี้พนักงานทุกคนจึงต้องมีทักษะในเรื่องของความอดทนที่ยอดเยี่ยมเป็นเลิศด้วย เพราะความอดทนคือคุณสมบัติขั้นต้นที่จะช่วยให้พนักงานสามารถฝ่าฟันปัญหามรสุมในเรื่องต่างๆออกมาได้
 
 
  ถ้าพนักงานสามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศได้จะถือว่าได้เปรียบเป็นอย่างมาก เพราะต้องไม่ลืมว่าการพัฒนาเทคโนโลยีตามยุคสมัยได้มีส่วนทำลายพรมแดนทางเศรษฐกิจลงอย่างสิ้นเชิง โดยปัจจุบันบริษัทจากต่างประเทศได้เข้ามาลงทุนและติดต่อทำธุรกิจกับบริษัทสัญชาติไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พนักงานขององค์กรจึงควรมีทักษะความรู้ในเรื่องภาษาต่างประเทศติดตัวเอาไว้บ้าง ไม่ใช่เห็นชาวต่างชาติเมื่อไหร่ก็ต่างตกใจวิ่งหนีหรือเกี่ยงกัน

จะเห็นได้ว่าความรู้เพียงอย่างเดียวไม่ใช่องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่จะนำมาใช้เป็นบรรทัดฐานในการคัดเลือกพนักงานอีกต่อไปเพราะความรู้จะไร้ค่าหากพนักงานขาดซึ่งทักษะในการทำงานและการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ดังนั้นหากคราวใดที่ผู้ประกอบการจะต้องเลือกพนักงานเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในองค์กรก็ขอให้พิจารณาในเรื่องของทักษะให้ดีควบคู่กับความรู้ด้วย

 
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไรและจัดตั้งอย่างไร
 
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือกองทุนที่ผู้ประกอบการและพนักงานจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันให้กับพนักงานในยามเกษียณหรือออกจากงาน ซึ่งพนักงานจะจ่ายเงินเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2 แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินค่าจ้าง (เรียกว่าเงินสะสม) บวกกับเงินจากฝ่ายนายจ้างซึ่งจ่ายสมทบเ้ข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพอีกครึ่งหนึ่ง (เรียกว่าเงินสมทบ) และต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการซึ่งมาจากความยินยอมของทั้งสองฝ่ายเพื่อมาควบคุมและหาบริษัทที่มีความเหมาะสมเพื่อบริหารจัดการเงินกองทุนก้อนดังกล่าวและทำสัญญาว่าจ้างการบริหารงาน จากนั้นจึงไปจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพร้อมทั้งบริหารงานและรายงานผลการดำเนินงานให้ทราบเป็นระยะๆ โดยประโยชน์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีดังนี้
 
เสริมภาพลักษณ์บริษัท   สร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับพนักงาน
สวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถส่งเสริมภาพลักษณ์การบริหารงานขององค์กรให้มีความเป็นมืออาชีพในด้านการมีส่วนร่วมกันภายในองค์กรได้ เพราะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นความร่วมมือจากทั้งส่วนของผู้ประกอบและพนักงานในการบริหารเงินกองทุนอย่างเต็มที่ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึงเป็นที่ยอมรับจากสังคมและยังเป็นการแสดงออกซึ่งบทบาทความรับผิดชอบที่ตัวผู้ประกอบการตอบแทนกลับคืนไปสู่พนักงาน ซึ่งความรับผิดชอบดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่บริษัทระดับมืออาชีพพึงกระทำและยังเป็นการยกระดับบริษัทของผู้ประกอบการขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย   กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจัดเป็นสวัสดิการที่มีความมั่นคงมากที่สุดอย่างหนึ่งที่ผู้ประกอบการสามารถจะจัดหาให้พนักงานเพื่อแสดงถึงการตอบแทนการทำงานหนักและอุทิศตนของพวกเขาได้ ซึ่งการมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะช่วยให้พนักงานคลายความวิตกกังวลในอนาคตว่ามีจะมีเงินใช้หลังจากเกษียณจากงานหรือต้องออกก่อนเวลาอันสมควร นอกจากนี้ยังช่วยให้พนักงานมีผลการทำงานดีขึ้นด้วยซึ่งเป็นผลจิตวิทยาด้านความมั่นคงทางจิตใจ
     
ช่วยให้พนักงานทำงานกับบริษัทนานขึ้น   ดึงดูดผู้มีความสามารถ
เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์เงินเดือนที่มักมองหาสิ่งที่ดีกว่าพร้อมทั้งความมั่นคงในหน้าที่การงานให้กับตนเอง การที่ผู้ประกอบการมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะช่วยทำให้พนักงานมากความสามารถอยู่ทำงานด้วยนานขึ้นจนอาจถึงช่วงวัยเกษียณเลย นอกจากนี้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังเสริมความพยายามทุ่มเททั้งกำลังและสติปัญญาในการทำงานอย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลาการทำงานอีกด้วย   ในมุมมองของพนักงาน การพิจารณาสมัครเข้าทำงานในบริษัทใดสักแห่งหนึ่งนั้นเรื่องของสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีผลต่อการตัดสินใจค่อนข้างสูง ดังนั้นบริษัทที่มีสวัสดิการกองทุนประเภทนี้จึงมีความได้เปรียบมากกว่าบริษัทที่ไม่มี ผู้คนมักเลือกสมัครงานในบริษัทที่มีสวัสดิการยอดเยี่ยมมากกว่าอยา่งแน่นอน เพราะมองเห็นความมั่นคงในอนาคตที่จะได้รับจากการทำงาน ณ บริษัทแห่งนั้น
     
ลดหย่อนภาษีได้    
ภาษีเป็นเรื่องใหญ่และหนักหนาสาหัสมากในการทำธุรกิจ ผู้ประกอบการหลายคนจึงหาหนทางและวิธีการเพื่อจะลดหย่อนภาษี ซึ่งการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถให้คำตอบในส่วนนั้นได้ โดยบริษัทที่ทำการจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและจ่ายเงินสมทบให้กับพนักงานเป็นประจำสามารถนำไปหักได้ตามค่าใช้จ่ายตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของค่าจ้างในแต่ละระยะเวลารอบบัญชีของบริษัท จึงสามารถลดทอนเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนของภาษีไปได้ส่วนหนึ่ง    
 

ด้วยเหตุผลและผลประโยชน์ต่างๆ ที่ได้กล่าวไปแล้ว การจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึ่งเป็นสวัสดิการที่ดีซึ่งผู้ประกอบการสมควรสร้างขึ้นในธุรกิจของตนทันที เพราะแม้ว่าผู้ประกอบการคือหัวเรือใหญ่ในการคิดและบริหารงาน แต่ผู้ประกอบการก็ไม่มีทางทำทุกอย่างให้เสร็จสมบูรณ์ได้เพียงลำพังแน่นอน พวกเขาก็ต้องพึ่งพาความสามารถจากพนักงานด้วย และพวกพนักงานต่างก็หวังผลค่าแรงที่เหมาะสมกับความสามารถและสวัสดิการที่ดีเป็นรางวัลตอบแทน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดซึ่งผู้ประกอบการจะสามารถให้ได้เพื่อสร้างความอุ่นใจและความมั่นคงให้กับทั้งพนักงานและบริษัทของตน

 
Home | Our Products | Quotation | Our Clients | Product Knowledge | Company Profile | Career | Contact Us | FAQ
 
Copyright © 2010 Lert Siam Steel Co., Ltd. - All rights reserved.